สรรพคุณของกาแฟ ENCOFFEE(เอนคอฟเฟ่) จากผลการวิจัยทั่วโลก
1.การดื่มกาแฟจึงช่วยกระตุ้นระบบประสาท ทำให้ร่างกายสดชื่น
ขจัดความเซื่องซึมและอ่อนล้าได้
2.ปริมาณคาเฟอีนในกาแฟที่เหมาะสมสามารถช่วยลดอาการหงุดหงิด อารมณ์ซึมเศร้า
รวมถึงความเครียดได้
การดื่มกาแฟจึงทำให้ผู้ดื่มรู้สึกพึงพอใจและมีความสุข โดยมีรายงานผลวิจัยที่ระบุว่า
ผู้ที่ดื่มกาแฟวันละ 2-3 แก้ว
จะสามารถช่วดลดความเครียดได้ประมาณ 15% แต่ถ้าหากดื่มถึงวันละ
4 แก้ว ก็จะช่วยลดความเครียดได้ถึง 20%
3.ช่วยลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์
โดยมีงานวิจัยของมหาวิทยาลัยเซาท์ฟรอริด้า
ที่เปิดเผยว่าผู้ที่มีอายุล่วงเข้าสู่วัยกลางคน ควรดื่มกาแฟวันละ 4-5 แก้ว เพื่อช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมน GCSF เนื่องจากฮอร์โมนชนิดนี้สามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษากับคนวัยกลางคนในประเทศฟินแลนด์จำนวน 1,400
คน ที่พบว่าคนที่ดื่มกาแฟวันละ 5 ถ้วยต่อวัน
สามารถลดอัตราเสี่ยงของการเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้ถึง 65%
4.เป็นที่เชื่อกันว่ากาแฟมีสรรพคุณที่ช่วยชูกำลังได้
5.ช่วยแก้อาการปวดศีรษะ คาเฟอีนในกาแฟมีฤทธิ์ขยายหลอดเลือด
จึงช่วยระงับอาการปวดได้เช่นเดียวกับยาแก้ปวด
อีกทั้งกาแฟยังช่วยละลายไขมันในเส้นเลือด บรรเทาอาการปวดศีรษะเนื่องจากการเมาสุรา
อาการปวดศีรษะเนื่องจากเส้นประสาท รวมถึงอาการปวดศีรษะข้างเดียวหรือไมเกรน
6.คาเฟอีนสามารถช่วยขยายหลอดเลือดแดงที่หล่อเลี้ยงหัวใจได้
จึงทำให้เลือดไปหล่อเลี้ยงหัวใจได้มากขึ้น
แต่ในขณะเดียวกันก็มีฤทธิ์ทำให้เส้นเลือดแดงบริเวณศีรษะหดตัว
ซึ่งก็เป็นการช่วยลดอาการปวดศีรษะจากไมเกรนได้อีกด้วย
7.ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง มีงานวิจัยหลายชิ้นที่ยืนยันได้ว่าการดื่มกาแฟวันละ
2-5 แก้ว สามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งในช่องปาก
มะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งตับได้
เนื่องจากคาเฟอีนจะไปช่วยยับยั้งการเกิดเซลล์ผิดปกติ
และกำจัดสารพิษที่ร่างกายได้รับออกไปได้ในระดับหนึ่ง
งานวิจัยของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
ได้ทำการศึกษาจนพบว่า
ผู้ที่ดื่มกาแฟจะมีอัตราการเป็นโรคมะเร็งต่ำกว่าผู้ที่ไม่ได้ดื่ม
ส่วนการศึกษาของมหาวิทยาลัยบอสตันพบว่า ผู้ป่วยที่ดื่มกาแฟอย่างน้อยวันละ 5
ถ้วย จะมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งลำไส้ต่ำกว่ากลุ่มอื่นถึง 40%[3] ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาในประเทศญี่ปุ่นที่ทำการศึกษากับผู้หญิงเป็นระยะเวลา
12 ปี โดยพบว่าผู้ที่ดื่มกาแฟวันละ 3 แก้วหรือมากกว่า
จะมีแนวโน้มในการลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ถึง 50% และจากการศึกษากับผู้ชายจำนวน 50,000 คน
เป็นระยะเวลา 20 ปี พบว่าผู้ที่ดื่มกาแฟวันละ 6 แก้ว จะมีอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมากน้อยกว่าคนที่ไม่ได้ดื่ม[11] โดยมีข้อมูลที่ระบุว่าการดื่มกาแฟนั้น
จะสามารถช่วยยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งได้
8.ผู้ที่ดื่มกาแฟเป็นประจำจะมีโอกาสรอดพ้นจากโรคเบาหวานชนิดที่
2 ได้ถึง 50% เนื่องจากกาแฟมีคาเฟอีนที่มีคุณสมบัติในการยับยั้ง
hIAPP และโพลีเปปไทด์ ที่เป็นตัวการก่อให้เกิดโปรตีนผิดปกติ
ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเบาหวานชนิดที่ 2
9.กาแฟมีสรรพคุณช่วยบำรุงหัวใจ
และช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ จากการศึกษาที่ติดตามดูผู้หญิงจำนวน
27,000 คน เป็นเวลา 15 ปี
พบว่าการดื่มกาแฟประมาณวันละ 1-3 ถ้วย
จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจให้น้อยลงได้ถึง 26% แต่การดื่มกาแฟในปริมาณมากกว่านี้ต่อวันจะไม่ได้ผลในการลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ ส่วนอีกการศึกษาหนึ่งที่ทำการศึกษาในกลุ่มผู้หญิงที่ดื่มกาแฟไม่เกินวันละ 5
ถ้วย
พบว่ากาแฟไม่มีส่วนทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจมากขึ้น
แม้ในรายที่มีปัญหาเส้นเลือดหดตัวหรือหัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ
ส่วนผู้ที่ดื่มกาแฟวันละ 6 ถ้วยขึ้นไปทุกวันก็ไม่มีอัตราการเต้นของหัวใจที่สูงเกินกว่าปกติ การดื่มกาแฟจะทำให้หัวใจเต้นเร็ว
ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น เพราะกาแฟมีสาร theobromine (เมล็ด)
10.กาแฟมีนิโคติน
แต่ไม่ใช่ชนิดเดียวกันกับที่พบได้ในบุหรี่
แต่เป็นวิตามินบีรวมชนิดหนึ่งที่ร่างกายต้องการ
ซึ่งสามารถช่วยลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดได้ การดื่มกาแฟจึงช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดแข็งตัว
11. กาแฟสามารถลดความเสี่ยงของการเกิดการอุดในเส้นเลือดได้ถึง
43%
มีงานวิจัยที่ระบุว่าคาเฟอีนสามารถช่วยกระตุ้นให้เกิดการใช้พลังงานของร่างกาย
ทำให้ไขมันเกิดการสลายตัวมากขึ้น การดื่มกาแฟจึงอาจช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนักได้ อีกทั้งคาเฟอีนและสารอื่นๆ
ที่มีอยู่ในกาแฟยังช่วยกระตุ้นการหลั่งของกรดและน้ำย่อย จึงช่วยในการย่อยอาหาร
ด้วยเหตุนี้เอง จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้มีผู้คนจำนวนมากหันมาดื่มกาแฟหลังอาหาร
12.การดื่มกาแฟหลังอาหาร สามารถช่วยละลายไขมัน
ทำให้ไขมันเกิดการแตกตัว และให้พลังงานทดแทนได้ อีกทั้งกาแฟยังมีประโยชน์ต่อกระเพาะโดยตรง
โดยจะช่วยทำให้น้ำย่อยที่กระเพาะและตับอ่อนมีเพิ่มขึ้น จึงทำให้ไขมันถูกเผาผลาญ
การดื่มกาแฟจึงมีส่วนในการช่วยลดความอ้วนได้
13.ช่วยเพิ่มไขมันดี (HDL) ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย จากผลการวิจัยพบว่าผู้ที่ดื่มกาแฟบ่อยๆ
จะมีไขมันชนิดดีเพิ่มขึ้น ซึ่งไขมันชนิดนี้จะเป็นตัวช่วยขับไล่คอเลสเตอรอล
และช่วยป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว
พบว่า ผู้ชายที่ไม่ดื่มกาแฟจะมีโอกาสป่วยเป็นโรคพาร์กินสันมากกว่าผู้ที่ดื่มกาแฟมากกว่าวันละ
5 ถ้วย สูงถึง 5 เท่า ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของสถาบันการแพทย์อเมริกันที่พบว่า
ผู้ที่ดื่มกาแฟวันละ 2-3 แก้ว เป็นประจำทุกวัน
จะช่วยลดโอกาสเกิดโรคพาร์กินสันได้ถึง 25%[6] แต่สำหรับกาแฟชนิดที่สกัดเอาคาเฟอีนออก จะไม่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคนี้
14.การดื่มกาแฟสามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคหอบ
ช่วยบรรเทาอาการหอบหืด แก้หอบหอบหืดได้ เพราะกาแฟมีสารคาเฟอีนที่ช่วยระงับอาการตึงเครียดของประสาทสัมผัสสำรอง
จึงช่วยลดการเกิดโรคหอบได้[3],[9]
ผู้ที่มีปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศอันเนื่องมาจากการดื่มสุรา
จากภาวะซึมเศร้า จากอายุขัย หรือจากการเสพยา
สามารถแก้ปัญหานี้ได้ด้วยการดื่มกาแฟในปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละวัน
ผู้หญิงที่ดื่มกาแฟวันละ 4 แก้ว
จะมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดีลดลงประมาณ 25%
ผู้ชายที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดีได้
40% และลดได้ 25% สำหรับผู้หญิงที่ดื่มกาแฟในปริมาณเท่ากัน
มีงานวิจัยที่ได้พิสูจน์แล้วว่า
กาแฟมีประโยชน์ในการช่วยป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบบี
15.ช่วยลดการเกิดโรคตับจากสุรา
จากสำรวจพบว่ากาแฟสามารถช่วยลดผลร้ายที่มีต่อตับได้
16.กาแฟมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ โดยมีข้อมูลที่ระบุว่าการดื่มกาแฟประมาณ
5 ถ้วยครึ่ง (ประมาณ 550 มิลลิกรัม)
จะไม่ออกฤทธิ์ในการขับปัสสาวะแต่อย่างใด แต่อย่างไรก็ตาม
คาเฟอีนยังมีฤทธิ์เป็นยาขับปัสสาวะได้หากดื่มเกินครั้งละ 575 มิลลิกรัม หรือประมาณ 6 ถ้วย
ดังนั้นในขณะออกกำลังกายหรือหลังออกกำลังกาย จึงไม่ควรดื่มกาแฟในปริมาณมาก
เพราะจะทำให้ร่างกายขาดน้ำได้
17.การดื่มกาแฟวันละ 2 แก้ว อาจช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อหลังการออกกำลังกายได้ถึง 58% จึงทำให้ยาแก้ปวดหลายประเภทนั้นมีส่วนผสมของคาเฟอีนอยู่ด้วย
65 มิลลิกรัม
18.ช่วยลดโอกาสเป็นโรคเก๊าท์ สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคเก๊าท์
โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป แนะนำให้ดื่มกาแฟวันละ 3-6
แก้วอย่างต่อเนื่อง เพราะจากผลการวิจัยของสถาบันการแพทย์แห่งหนึ่ง
ที่ได้ยืนยันว่าคาเฟอีนมีส่วนช่วยบรรเทาอาการอักเสบของข้ออันเนื่องมาจากกรดยูริกที่เกินขนาดอย่างได้ผล
โดยผู้ที่ดื่มกาแฟวันละ 6 แก้ว
จะช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคเก๊าท์ได้ถึง 60%
19.การดื่มกาแฟวันละ 1-2 แก้ว จะช่วยป้องกันโรคหนังตากระตุกได้และช่วยลดอัตราการกระตุกให้ช้าลงได้ในผู้ป่วย
นอกจากนี้ กาแฟ
ENCOFFEE ยังมีส่วนผสมของสมุนไพรอันดับ 1 หลายชนิด
จึงเป็นกาแฟเพื่อสุขภาพที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
ด้วยส่วนผสมสำคัญใน กาแฟ ENCOFFEE ทำให้เป็นกาแฟเพื่อสุขภาพที่ดีที่สุดในขณะนี้
ปริมาณและราคา
1 กล่องมี 12 ซอง ราคา 285 บาท
สั่งซื้อและสมัครเป็นตัวแทนขาย
คุณ วีระชัย ทองสา โทร. 085-0250423 , 084-6822645
ID Line : weerachaicoffeeemail : weerachai.coffee@hotmail.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น